ดังนั้นวันนี้ผมขอนำมาสรุปให้ทราบกันเป็นเกร็ดความรู้ดังต่อไปนี้ครับ
- ตามทำเนียมปฏิบัติ ของพรรคใหญ่ๆ อย่าง ริพับลิกัน (Republican) และพรรคเดโมเเครต (Democrat) ประมาณ เดือน มกราคมของ ปีที่มีการเลือกตั้ง ทางพรรคจะเริ่มขบวนการสรรหาผู้ชิงตำแหน่ง โดยการจัด คอคัส(caucus) หรือ ไพรมารี่(Primary) เพื่อเลือก เดลิเกต (Delegate) โดยจำนวนเดลิเกต (Delegate) ของแต่ละรัฐจะมีจำนวนไม่เท่ากันขึ้นกับจำนวนประชากร และกฎของแต่ละพรรค
- เดลิเกต (Delegate) นั้นจะแบ่งออกเป็นสามประเภทคือ
- เป็นผู้ที่ได้รับเลือกให้มาเป็นตัวแทนของรัฐแต่ไม่มีข้อผูกมัดว่าจะสนับสนุนให้คนไหนในพรรคเป็นผู้ชิงตำแหน่ง ปธน.
- เป็นผู้ที่ได้รับเลือกให้มาเป็นตัวแทนของรัฐแต่มีข้อผูกมัดว่าจะสนับสนุนให้คนไหนในพรรคเป็นผู้ชิงตำแหน่ง ปธน.
- เป็นผู้ทรงคุณวุฒิของพรรคที่ไม่มีข้อผูกมัดว่าจะสนับสนุนให้คนไหนในพรรคเป็นผู้ชิงตำแหน่ง ปธน.
- ประมาณช่วงฤดูร้อนก่อนการเลือกตั้ง ทั้งสองพรรคจะจัดงาน เนชั่นแนล คอนเวนชั่น (National Convention) ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ระดับชาติของพรรค เพื่อให้มีการพูดคุยเรื่องนโยบาย และที่สำคัญคือ เพื่อให้ เดลิเกต (Delegate) ทั้งสามประเภทเลือกผู้ชิงตำแหน่ง ปธน. และ รอง ปธน. ในนามพรรค
- ตามธรรมเนียมเมื่อมีการเลือกผู้ชิงตำแหน่ง ปธน เรียบร้อยผู้ชิงตำแหน่ง ปธน ที่ได้รับเลือกจากพรรคให้ลงในนามพรรคจะประกาศผู้ชิงตำแหน่ง รอง ปธน ที่จะลงเป็นคู่กันในนามพรรค เพื่อให้เดลิเกตทุกคนในงานเลือกตามอย่างเป็นเอกภาพ
- หลังจาก ผู้ชิงตำแหน่ง ปธน. ได้ลงหาเสียงคู่กับ ผู้ชิง ตำแหน่งรอง ปธน. สักระยะหนึ่ง ก็จะมีการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ตรงกับ วันอังคาร หลังวันจันทร์แรกของเดือน (อังคารใดอังคารหนึ่งระหว่างวันที่ ๒ พ.ย. - ๘ พ.ย.)
- ในการเลือกตั้งทั่วไป ที่จริงแล้วไม่ใช่การเลือก ปธน.-รอง ปธน. โดยตรง แต่เป็นการเลือก อีเล็คเตอร์ (Elector) ซึ่งแต่ละรัฐจะมีจำนวน อีเล็คเตอร์ ไม่เท่ากันตามประชากร (จำนวน = สส. + สว.(๒) ของรัฐนั้นๆ) อีเล็คเตอร์เหล่านี้มักเป็นคนของแต่ละพรรคการเมือง เพราะฉะนั้นเราก็จะรู้ว่า อีเล็คเตอร์ "ก." จะเลือก ปธน.-รอง ปธน "ข." เป็นต้น
- ดังนั้นบนบัตรเลือกตั้ง ประชาชนจะสามารถเห็นชื่อของ อีเล็คเตอร์(ในบางรัฐเท่านั้นที่จะระบุ) คู่กับชื่อของ ปธน - และ รอง ปธน. (ระบุทุกรัฐ) โดยการกาครั้งเดียวจะเท่ากับการ เลือก อีเล็คเตอร์ (และ ปธน. - รอง ปธน. โดยปริยาย) หรือหากไม่ชอบใครเลยบางรัฐยังอนุญาต ให้เขียนชื่อ "นาย ฮ." อะไรก็ได้ลงในช่องว่าง และเขียนชื่ออีเล็คเตอร์ "อ." ที่คุณต้องการให้เข้าไปเลือกบุคคล ("นาย ฮ.") ที่คุณเขียนชื่อเพิ่มเข้าไป
- โดยส่วนมาก ผู้ชิง ปธน. - รอง ปธน. คู่ใดคะแนนสูงสุดในรัฐนั้นๆ ก็จะได้ อีเล็คเตอร์ของผู้สมัครทั้งหมดเข้าไปเป็น อีเล็คเตอร์ เช่นถ้าพรรคเดโมแครตได้คะแนน ๕๑% อีเล็คเตอร์ ของรัฐนั้นทั้งหมดจะเป็นคนของพรรค เดโมแครต
- มีเพียงรัฐ เมน (Maine) และ เนบราสก้า (Nebraska) เท่านั้นที่เลือกอีเล็คเตอร์ ตามเขตเลือกตั้งของรัฐ+อีเล็คเตอร์อีก ๒ คนที่มาจากผลคะแนนรวมของทั้งรัฐ
- ใน วันจันทร์ หลังจากวันพุธที่ ๒ ของเดือน ธันวาคม อีเล็คเตอร์ ของแต่ละรัฐ (คณะอีเล็คเตอร์ เรียกว่า อีเล็คเตอรอล คอลเลจ (Electoral Collage)) จะรวมตัวกันในเมืองหลวงของแต่ละรัฐ เพื่อลงคะแนนเลือก ปธน-รอง ปธน
- ถึงแม้ส่วนใหญ่จะไม่มีการเลือกอย่างผิดคาด แต่ที่จริงแล้วตามกฎหมาย อีเล็คเตอร์จะสามารถเลือกใครก็ได้ให้มาเป็น ปธน-รอง ปธน (มีเพียง ๒๔ จาก ๕๐ รัฐเท่านั้นที่มีบทลงโทษผูกมัดให้อีเล็คเตอร์เลือก ปธน-รอง ปธน ที่ตนประกาศไว้แต่ต้น)
- ต้นเดือนมกราคมหลังการเลือกตั้ง รองประธานาธิบดีคนเก่า ในฐานะประธานสภาสูง (Senate) จะเป็นผู้อ่านผลการลงคะแนนของอีเล็คเตอร์ ให้รัฐสภา (สภาคองเกรส Congress)ฟัง หาก ผู้ชิงตำแหน่งคนใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ก็จะได้เป็น ปธน. - รอง ปธน.
- หากไม่มีใครได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง สส. มีหน้าที่ต้องเลือก ปธน และ สว. มีหน้าที่เลือก รอง ปธน.
- จบ!
เพิ่มเติม:
ขยายความเรื่อง ไพรมารี่ http://www.comprehensivethai.com/2012/09/primaries.html
ขยายความเรื่อง คอคัส http://www.comprehensivethai.com/2012/09/caucus.html
ขยายความเรื่อง ไพรมารี่ http://www.comprehensivethai.com/2012/09/primaries.html
ขยายความเรื่อง คอคัส http://www.comprehensivethai.com/2012/09/caucus.html
ขอบคุณสำหรับความรู้นี้ครับ
ReplyDeleteขอบคุณครับ น่าสนใจครับ :)
ReplyDelete