Monday, October 22, 2012

เรื่องสั้นสะท้อนสังคม: ในหลวง ในหัวใจ

แสงอันเหลืองอร่ามของดวงสุรียา ที่สอดส่องลงมาผ่านรอยรั่ว รอยผุของหลังคาสังกะสี ย่อมเป็นนาฬิกาบอกเวลาอันดีของ ยายราษฎร์ ว่าถึงเวลาแล้วที่ยายจะต้องลุกจากเสื่อสีแดง-เหลือง ที่เธอสานมากับมือตัวเอง ไปช่วยกันทำนากับ ตา-ยาย คู่อื่นๆในหมู่บ้าน


แต่วันนี้ถึงแม้เสียงนักเรียนเคารพธงชาตินั้นจะดัง แว่วๆมาจากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว เสียงอันร่าเริงของ ยายราษฎร์ที่มักได้ยินมาแต่ไกลจากท้องทุ่งกลับเงียบสงัด มีเพียงเสียงพูดคุยค่อยๆที่ดังมาจากกระต๊อบของเธอ...

ประชา ลูกแม่...พวกหนุ่มสาวเหล่านี้ใครให้เข้ามา?”
เอาเถอะแม่ แป๊บเดียว เดี๋ยวเขาก็ไปแล้ว
ประชา แต่แม่ห้ามเขาแล้วนะ แม่ไม่สบาย แม่ไม่อนุญาตให้เขามา...
แม่ เลิกเรียกผมว่า ประชาได้แล้ว หมอดูในกรุงเขาว่า ให้เปลี่ยนชื่อเป็น ธนา

เสียงซุบซิบ ของทีมข่าวโทรทัศน์ ที่มาทำข่าว ยายราษฎร์เริ่มเงียบลง แสงไฟ สปอตไลท์ ของช่างภาพกลบกลืนแสงอาทิตย์ที่สอดส่องเข้ามาในกระต๊อบ

ประชา ไฟอะไรมันจ้าขนาดนี้ แสบตาเหลือเกิน
เงียบ ได้แล้วแม่ เขาจะเริ่มถ่ายทอดสดแล้ว บ่นมากเดี๋ยวลูกก็ไม่ได้เงินหรอก...

321เสียงกล้องเริ่มเดิน

คุณ ธนา คะ ขอบคุณมากค่ะที่อนุญาตให้พวกเราเข้ามาทำข่าวเรื่อง ยายราษฎร์
ด้วยความยินดีครับ ผมกับแม่ผมไม่อยากให้เรื่องอย่างนี้เกิดกับใครอีก เชิญถ่ายแม่ผมได้ตามสบายครับ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณธนาคะ ช่วยเล่าให้ท่านผู้ชมทางบ้านฟังได้หรือไม่คะว่าเกิดอะไรขึ้น กับคุณยายราษฎร์?”
ครับ คือว่า...เรื่องมันมีอยู่ว่า... แม่ผมเกิดหกล้ม ตกคันนา กระดูกหัก เลยไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจังหวัด
แล้วทำไมอาการถึงทรุดขนาดนี้ล่ะคะ แค่กระดูกหักน่าจะแค่เข้าเฝือก อย่างมากก็ผ่าตัด
ครับ หมอก็ผ่าตัดให้ครับ แต่ปรากฏว่าอุปกรณ์ของหมอนั้นเก่าและไม่สะอาด แม่ผมเลยติดเชื้อในกระแสเลือด

คุณประชาคะ ทราบหรือไม่ว่า ที่จริงโรงพยาบาลที่ ยายราษฎร์ไปใช้บริการเพิ่งเสร็จสิ้นการดำเนินการปรับปรุงโรงพยาบาลตามโครงการรัฐบาลมูลค่าหลายร้อยล้าน โดยงบประมาณดังกล่าวถูกจัดสรรมาเพื่อใช้จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ทันสมัย โดยตรง...

ครับนายธนาโต้ตอบอย่างทันควัน ผมมั่นใจว่าต้องมีการโกงแน่ๆ ใช่มั๊ยแม่?”

อือ ยายตอบสั้นๆ หารู้ไม่ว่าใจของคุณยายนั้นไม่ได้อยู่กับการสัมภาษณ์ แม้แต่น้อย ในใจของยายราษฎร์มีเพียงคน คนเดียวเท่านั้น...ผู้เดียวที่ไม่เคยทำให้ยายราษฎร์เสียใจ ผู้ที่ทำให้ยายเปี่ยมปีติอยู่เสมอ...

ประชา...ประชา... ยายราษฎร์กล่าวเรียกลูกชายเบาๆ แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะถูกเสียงของธนาและผู้ดำเนินรายการกลบกลืนเสียหมด

ลมเย็นๆเริ่มผัดผ่านมาทางช่องลม...ด้วยแรงที่เหลืออยู่ยายราษฎร์ค่อยๆเอือมมือออกไปหยิบ ล็อกเก็ตทรงหัวใจของเธอมากำไว้ในมือ

ประชา ลูกแม่...แม่ขอให้ลูกพอใจกับเงินที่ลูกได้นะ...ไม่ต้องห่วงแม่ เพราะแม่รู้ว่าแม่ พอแล้ว

แล้วยายราษฎร์ก็หลับตาลง...
                                                                                                                                                               

เสียงไอโฟน ของท่าน ส.ส. เศรษฐ์ ผู้ทรงเกียรติ สั่น ครืกๆ กระตุ้นให้ท่าน เศรษฐ์ชำเรืองมอง นาฬิกา โรเล็กซ์ แล้วรีบเก็บปากกา ราคาแพงใส่กระเป๋า ก่อนเดินอมยิ้มออกจากห้องประชุมกรรมาธิการจริยธรรมอย่างรวดเร็ว เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงฉลองกับพรรคพวกให้ตรงเวลา

ท่านค่ะๆ...
วันนี้ผมให้สัมภาษณ์ไม่ได้จริงๆ ผมติดประชุมลับ หากผมสายจะทำให้ชาติเสียหายมาก

ประชุมเกี่ยวกับการทุจริตโครงการปรับปรุงโรงพยาบาลจังหวัดหรือเปล่าคะ?”
ทุจริตอะไร ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย...

ข่าว ยายราษฎร์เมื่อเช้าไงคะ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านให้สัมภาษณ์เมื่อสักครู่ว่าจะยื่นฟ้องท่านข้อหาทุจริตงบประมาณแผ่นดิน แถมยังขยายความอีกว่ามีหลักฐานมัดตัวท่านแน่น เพราะท่านเป็นผู้ดูแลงบประมาณและยังเป็น ส.ส. ของพื้นที่อีกด้วย
อะไร...พูดอะไร ไม่รู้เรื่อง ยายพวกไหน?”

รู้สิคะ ฝ่ายค้านบอกว่ามีวีดีโอวงจรปิด จับพฤติกรรมท่านได้ชัดเจน ท่านมีอะไรจะโต้ตอบคำกล่าวหาของหัวหน้าฝ่ายค้านว่าท่านเป็น เด็กเลี้ยงแกะหรือไม่คะ?”

ผมขอยืนยันว่าชีวิตนี้ผมไม่เคยโกหก ไม่เคยโกง ไม่เคยโดดงานเพื่อกิจส่วนตัว เพราะผมยึดมั่นในพระราชดำรัส นี่เดี๋ยวผมท่องให้ฟังเลย

‘...การที่ประกอบกิจใดๆ ให้เจริญเป็น ผลดีนั้น ย่อมต้องอาศัยความอุตสาหะพากเพียร ความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นรากฐานสำคัญ

เห็นมั๊ย? ท่องได้แม่นเลย

ผมขอยืนยันว่าผมจะฟ้องท่านหัวหน้าฝ่ายค้านกลับ ข้อหาหมิ่นประมาทแล้วท่าน เศรษฐ์ ก็เดินหลบไป คำถามที่เหลือของนักข่าวนั้นเป็นเพียงเสียงนกเสียงกา

อย่างมากก็คงแค่รอลงอาญา ป่านนี้เพื่อนๆคงก๊งเหล้ากันไปยกหนึ่งแล้วท่าน เศรษฐ์ ผู้ทรงเกียรติ นึกในใจก่อนที่จะก้าวขึ้นรถเบนซ์ที่มารอรับอยู่ที่หน้าสภา
                                                                                                                                                                

โดยปกติ เมื่อดวงอาทิตย์อัสดงลับขอบฟ้า หลีกทางให้เจ้าจันทรา เปล่งรัศมีสอดส่องคล้องจองกับเสียงบรรเลงเพลงของจักจั่นในยามค่ำคืน ตัวเมืองของจังหวัดอันเป็นที่รักของยายราษฎร์จะเงียบสงบร่มเย็นตลอดคืน

หากแต่วันนี้แสงนวลของดวงจันทร์มิอาจครองชัยต่อไฟอันร้อนระอุที่เผาไหม้ตึกอำนวยการของโรงพยาบาลจังหวัด
เสียงบรรเลงของจักจั่นถูกข่มฆ่า โดยเสียงอึกทึกคึกโครมของผู้ประท้วง

เราต้องไล่คนโกงออกไป...
ไอ้เศรษฐ์ไปตายซะ...
อย่าให้ยายราษฎร์ตายเปล่า...

ห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุไม่กี่เมตร ทีมข่าวเตรียมสัมภาษณ์ นายประชาอีกครั้ง...
ธนาคะ คุณคิดอย่างไรกับการที่ประชาชนลุกขึ้นมาประท้วงอย่างนี้?”
...
...
...
"...คุณธนาคะ?...คุณธนา..." นักข่าวถามย้ำอีกครั้งหลังจากที่ประชานิ่งเงียบ ผิดกับเมื่อเช้า ขณะที่เสียงจากผู้ประท้วงดังเข้ามาในกล้องอย่างต่อเนื่อง...

คุณธนาคะ ช่วยออกความเห็นให้ท่านผู้ชมหน่อยคะ คุณธนา!

...
...
...

ความเงียบของ ประชานั้นค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆถ้ำกลางความอลม่าน วุ่นวาย...

คุณธนาคะ...
...

คุณเห็นไอ้คนเสื้อส้มที่กำลังเผาตึกคนนั้นมั๊ย?” ประชาถามนักข่าวอย่างกะทันหัน ด้วยเสียงสั่นคลอ 
ไอ้คนนั้นน่ะ มันเพิ่งโทรมาหาผมเมื่อบ่ายนี้เองหลังจากที่แม่ผมตาย บอกผมว่าให้มาร่วมประท้วงกับมันเพราะพรรคฝ่ายค้านจะให้เงินตั้งพันนึงถ้ามาช่วยกันไล่รัฐบาลโดยเอาเรื่องแม่ผมมาเป็นชนวน

อ้าว ธนาหมายความว่ายังไง?”

ประชาหมายความว่า...เราเห็นแก่เงินมากไป เห็นแก่ตัวมากไป เห็นแก่อำนาจมากไป เห็นแก่ภาพลักษณ์มากไป 
ในขณะเดียวกัน เราเห็นแก่ผู้อื่นน้อยไป เราฟังกันน้อยไป เรารู้จักมีเมตตาให้อภัยกันน้อยไป...

แม่ครับลูกหลงทางอยู่นาน ประชาชนคนไทยยังหลงทางอยู่มาก เราทุกคนบอกว่าเรารักในหลวง...รักในหลวงบนธนบัตร รักในหลวงแต่ปาก...

แต่สิ่งสุดท้ายในมือแม่ก่อนที่แม่จะจากผมไปเมื่อเช้านี้...ภาพในหลวงในล็อกเก็ตของแม่ทำให้ผมเข้าใจ...ทำให้ผมตระหนักว่า การ รักในหลวงอย่างแท้จริงคือการปฏิบัติตนตามแนวพระราชดำริ การมีในหลวงเป็นเข็มทิศอยู่ใน หัวใจเสมอ

แม่ครับ...วันนี้ ประชามีในหลวงอยู่ในใจ ประชา รู้จักคำว่า พอ แล้ว...

                                                                                                                            

ผมหวังว่าเรื่องสั้นของผมจะได้ให้ข้อคิดดีๆแก่ท่าน ไม่มากก็น้อยครับ หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็ช่วยแบ่งปันให้เพื่อนๆอ่านกันนะครับ ลิ้งค์ของบทความนี้คือ: http://www.comprehensivethai.com/2012/10/blog-post_22.html

No comments:

Post a Comment