Tuesday, October 2, 2012

กว่าจะเกรียงไกร...ประวัติและวิวัฒนาการเรือดำน้ำในสหรัฐ ตอน 1

เรือดำน้ำนั้นถือเป็นหนึ่งในความปรารถนาสูงสุดของ ทร. ไทยที่ต้องการนำยุทโธปกรณ์อันทรงศักยภาพดังกล่าวมาปกป้องผลประโยชน์ของชาติ แต่หลังจากที่ ทร. ได้ปลดประจำการเรือดำน้ำชุดแรกและชุดเดียวของไทยไป โครงการจัดหาเรือดำน้ำครั้งต่อๆมาก็มักจะเป็นที่สนใจ จับตามอง และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากในวงกว้างทั้งในมิติทาง การเมือง ความมั่นคง และเศรษฐกิจ จึงมีข้อมูลมากมายในสื่อไทยเกี่ยวกับเรือดำน้ำรุ่นต่างๆในปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี ข้อมูลภาษาไทยเรื่องการวิวัฒนาการของเรือดำน้ำและประวัติในการจัดหาและเข้าประจำการเรือดำน้ำในชาติมหาอำนาจนั้นยังมีอยู่น้อย

ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอนำเอาประวัติของการจัดหา จัดซื้อเรือดำน้ำในสหรัฐมารวบรวมเล่าให้ฟังโดยสังเขป เพื่อให้สังคมไทยเห็นถึงความยากลำบากที่แม้แต่ชาติมหาอำนาจต้องเผชิญในการพัฒนาขีดความสามารถของตนเองในเรื่องการยุทธใต้ท้องทะเล และเพื่อเป็นกำลังใจและบทเรียนให้กองทัพเรือจัดหาเรือดำน้ำต่อไปเพื่อประโยชน์ของชาติ
US Navy

File:Turtle submarine 1776.jpg
เรือ Turtle
ในปี ค.ศ. 1775 เรือดำน้ำลำแรกของโลกที่มีประวัติในการออกรบ คือเรื่อ "เต่า" (Turtle) ซึ่งออกแบบ โดยชาวอเมริกัน นามว่า เดวิด บุชเนล (David Bushnell) จากรัฐคอนเนตทิคัต (Connecticut) เพื่อใช้ในการลักลอบนำระเบิดไปติดกับใต้ท้องเรืออังกฤษในอ่าวเทียบเรือนิวยอร์ก (New York Harbor)ในสงครามแย่งชิงอิสรภาพ (Revolutionary War) โดยได้รับทุนจำนวนหนึ่งจากท่าน จอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ในการสร้างเรือขนาด 0.9 x 1.8 x 3 เมตร

อย่างไรก็ดีความพยายามที่จะนำเรือดำน้ำดังกล่าวไปโจมตี เรือ HMS อีเกิล (Eagle) และ เรือฟรีเกตจำนวนหนึ่งประสบความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ในเวลาต่อมาเรือที่ใช้ในการบรรทุกเจ้า "เต่า" ได้ถูกทำลายทำให้เรือดำน้ำดังกล่าวถูกทำลายไปด้วย

ในปี ค.ศ. 1861 ขณะที่การพัฒนาการของเรือดำน้ำในชาติทางยุโรปก้าวหน้าขึ้นไปมาก กองทัพเรือสหรัฐยังไม่มีความรู้ทางด้านเรือดำน้ำมากจึงได้ว่าจ้างบริษัทอเมริกันนามว่า นีฟี่ & เลวี่ (Neafie & Levy) เพื่อต่อเรือดำน้ำที่ออกแบบโดยชาวฝรั่งเศส เข้าประจำการ เพื่อนำมาต่อต้านเรือหุ้มเกราะเหล็กของข้าศึก (ในสมัยนั้นทัพเรือสหรัฐยังใช้เรือไม้) ในสงครามกลางเมือง (American Civil War)

เรือดังกล่าวมีนามว่า "จระเข้" (Alligator) และจัดว่าเป็นเรือดำน้ำลำแรกของกองทัพเรือสหรัฐ เรือมีความยาว 9 เมตร และเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.8-2.4 เมตร ใช้พลังมือในการขับเคลื่อนใบพัด ทำความเร็วสูงสุดได้ 4 น๊อต และ ต้องใช้ท่ออากาศสองท่อ(ปากท่อจะมีทุ่นลอยน้ำเพื่อให้ปากท่อไม่จม) + ปั๊ม ในการสูบอากาศเข้ามาในเรือ ถึงแม้กองทัพเรือสหรัฐจะมีแผนการและความคาดหวังในยุทโธปกรณ์สูงมาก (ปธน. ลินคอล์น ถึงกับมาดูเรือด้วยตนเอง) 
File:USS Alligator 0844401.jpg
เรือ Alligator

แต่เรือดำน้ำดังกล่าวต้องจมลงไม่ถึงหนึ่งปีหลังการเข้าประจำการโดยที่ไม่ได้ปฏิบัติภารกิจใดๆ เพราะเรือที่ใช้ลาก เจ้า "จระเข้" ตัดสินใจสละเรือดำน้ำทิ้ง (ตัดเชือก) เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรง เพื่อเอาตัวรอด                                                                                 
File:Hunley-1.jpg
เรือ ฮันท์เลย์

ในปี ค.ศ. 1863 ทางฝ่าย คอนเฟดเดอเรทส์ (Confederates) ในสงครามกลางเมืองของสหรัฐ (American Civil War) จึงได้พัฒนาเรือดำน้ำของตนขึ้นมาใช้เองบ้าง ในเวลานั้นผู้ออกแบบ และ ออกทุนรายใหญ่ คือนาย ฮอเรส ฮันท์เลย์ (Horace Huntley) ซึ่งได้ทดลองสร้างต้นฉบับเรือดำน้ำมาแล้วสองลำ แต่ลำที่ได้เข้าประจำการจริงนั้น มีนามว่า "ฮ. ล. ฮันท์เลย์" (H. L. Huntley) ตามชื่อของผู้ออกแบบ และมีชื่อเล่นว่า "เรือปลา" (Fish boat) โดยเรือดังกล่าวถูกต่อขึ้นในรัฐ อลาบามา (Alabama) และถูกลำเลียงมาทางรางไปสู่รัฐเซาท์แคโรไลนา (South Carolina) 

ลักษณะของเรือมีความยาวประมาณ 12 เมตร และ สูง 1.2 เมตร สามารถจุลูกเรือได้ 8 นาย โดยลูกเรือ 7 นายมีหน้าที่หมุนใบพัดเรือด้วยมือ และอีก 1 นายมีหน้าที่ถือหางเสือ เรือนั้นมีระบบ (บาลาสท์) Ballast ที่ค่อนข้างทันสมัย สามารถใช้วาล์วเพื่อปล่อยน้ำเข้า และมือเพื่อวิดน้ำออก อาวุธนั้นจะเป็น ตอปิโด สปาร์ (Torpedo Spar) เหมือนหอกไม้ที่ยื่นออกมาจากเรือยาวประมาณ 6.7 เมตร โดยที่ปลายหอกจะติดวัตถุระเบิดหนัก 41 กก. ในการจู่โจมเรื่อต้องดำน้ำด้วยความลึกอย่างน้อย 6 เมตร และวิ่งเอา ตอปิโด สปาร์ (Torpedo Spar) พุ่งเข้าชนเรือข้าศึก ส่วนหัวระเบิดนั้นจะติดกับเรือข้าศึก และจะจุดฉนวนโดยอัตโนมัติเมือเรือดำน้ำถ้อยออกห่างจากเรือ (ตามทฤษฎี)
File:CSS David drawing.jpg
ลักษณะ ของ ตอปิโด สปาร์ (Torpedo Spar)

เรื่อ ฮันท์เลย์นั้นได้สร้างประวัตศาสตร์หน้าใหม่โดยการเป็นเรือดำน้ำลำแรกของโลกที่สามารถจมเรือข้าศึกได้สำเร็จ (เรือ USS Housatonic) อย่างไรก็ดีตลอดช่วงเวลากว่าหนึ่งปีที่เรือถูกใช้งานอย่างทุลักทุเล เรือนั้นได้จมลงถึงสามครั้ง ครั้งแรกขณะซ้อมลูกเรือหนึ่งนายเผลอเหยียบคันบังคับระดับของเรือ ทำให้เรือดำดิ่งอย่างกระทันหักก่อนที่จะมีโอกาสปิดฝาเรือจนน้ำเข้าท่วมเรือ (ลูกเรือรอด 3 ตาย 5) หลังจากที่เรือถูกกู้ขึ้นมา ก็จมลงอีกไม่กี่เดือนต่อมาหลังจากที่เรือไม่ยอมลอยขึ้นผิวน้ำขณะซ้อมโจมตีเรือ (ตาย 8 รวมทั้งนาย ฮันท์เลย์ด้วย) สุดท้ายหายไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากจมเรือ USS Housatonic ได้สำเร็จและแจ้งว่ากำลังเดินทางกลับฐาน

วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ โปรดติดตามตอนต่อไปได้ภายในอาทิตย์หน้า...

No comments:

Post a Comment